วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557

4. การอพยพราษฎรในบริเวณที่ถูกน้ำท่วม
                        การอพยพราษฎรออกจากบริเวณที่ถูกน้ำท่วม ในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนแก่งกระจาน ไม่มีปัญหามากนัก เนื่องจากมีชาวกระเหรี่ยงอาศัยอยู่ตามริมแม่น้ำเพชรบุรี บริเวณตอนกลางของอ่างเพียง 4 หมู่บ้าน คือ บ้านวังวน  ท่าลิงลม  แก่งมะค่า  และแก่งกระจาน  รวมทั้งหมด 32  ครอบครัว เป็นจำนวน 138  คนเท่านั้น  ชาวกระเหรี่ยงนี้มีภาษาพูดของตนเองแต่พูดภาษาไทยได้ มีความเป็นอยู่อย่างง่ายๆ รักสงบและรักสันโดษ ปลูกข้าวและพืชล้มลุกเพียงพอเลี้ยงชีพไปปีหนึ่งๆ นอกจากนี้ก็มีการหาของป่าและล่าสัตว์บ้าง ส่วนบริเวณอ่างทางเหนือน้ำมีชาวกระเหรี่ยงอาศัยอยู่ตามริมห้วยเพียงไม่กี่หลังคาเรือน
                        เนื่องจากราษฎรดังกล่าวมาแล้วไม่มีกรรมสิทธิ์ที่ดิน กรมชลประทานจึงได้พิจารณาจ่ายค่ารื้อถอนบ้านเรือนและค่าต้นผลไม้ทุกครัวเรือนแต่อย่างเดียวโดยความเป็นธรรม ต่อมาภายหลังปรากฏว่ามีคนไทยจากท้องที่ต่างๆ ในจังหวัดเพชรบุรี พากันเข้าไปตั้งถิ่นฐานในบริเวณตัวอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้น กรมชลประทานจึงได้ร่วมกับทางราชการจังหวัดเพชรบุรี จึงได้ประชุมราษฎรเหล่านี้แจ้งให้ทราบว่า พื้นที่บริเวณนี้อยู่ในเขตที่น้ำจะท่วม จึงขอให้ผู้ที่อพยพมาใหม่กลับไปยังถิ่นฐานเดิมหรือแหล่งอื่นเสีย ส่วนชาวกระเหรี่ยงซึ่งมาอยู่แต่เดิมนั้น ได้ให้อพยพไปอยู่ทางขอบอ่างทางทิศใต้ บริเวณห้วยเต่าคำและห้วยตากราย ซึ่งมีความชุ่มชื้นเหมาะกับการเพาะปลูกพืชไร่และปลูกข้าวเล็กๆน้อยๆ เหมาะกับอัธยาศัยของชาวกระเหรี่ยง ซึ่งมีความเป็นอยู่อย่างง่ายๆ จึงไม่เกิดความเดือดร้อนแต่ประการใด นอกจากนี้ กรมชลประทานยังได้ทำถนนลำลองจากเขื่อนแก่งกระจานไปตามขอบอ่าง จนถึงหมู่บ้านใหม่ของชาวกระเหรี่ยง เพื่อให้มีโอกาสออกมาภายนอกได้โดยสะดวกอีกด้วย

                        สำหรับชาวกระหร่าง ซึ่งมีอยู่ไม่กี่หลังคาเรือนนั้น ไม่ชอบสังคมกับบุคคลภายนอก เมื่อกรมชลประทานเริ่มเก็บน้ำในอ่าง ชาวกระหร่างซึ่งอยู่บริเวณอ่างทางเหนือน้ำนั้นจึงอพยพเข้าไปอยู่ทางต้นน้ำใกล้ชายแดนไทย พม่า ไม่ต้องจัดที่ทำมาหากินให้ เช่นชาวกระเหรี่ยง


ที่มา: จากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น